e-pedagogy
: วิธีสอนแบบบรรยาย
(lecture base)
ความหมาย
การบรรยาย คือ
กระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่
กำหนด โดยการ
เตรียมเนื้อหาสาระ แล้วบรรยาย คือ พูด บอก เล่า อธิบายเนื้อหาสาระหรือสิ่งที่ต้องการสอนแก่ผู้เรียน
ให้ผู้เรียนซักถามแล้วประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการอย่างใด อย่างหนึ่ง
(ทิศนา แขมมณี, 2544)
การ
บรรยายเป็นวิธีถ่ายทอดความรู้ที่ใช้กันมานานในการเรียนการสอนในระดับอุดม
ศึกษาเนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก สามารถสอนหรือบรรยายให้ผู้ฟังได้ทีละมากๆ
โดยทั่วไปจะใช้ในกรณีที่ต้องการนำเสนอความรู้ครั้งละมากๆ
โดยใช้เวลาไม่มากนักจึงจัดเป็นวิธีสอนที่ประหยัดเวลาในการเรียนการสอนได้
เป็นอย่างดี วิธีนี้จะเหมาะสมมากหากผู้บรรยายมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์
มีความรู้ในเนื้อหานั้นเป็นพิเศษ และต้องการให้ผู้ฟังได้คำอธิบายขยายความ
หรือแนวคิดที่แปลกใหม่เป็นข้อมูลที่หาอ่านจากเอกสารทั่วไปไม่ได้
วัตถุประสงค์
1. เพื่อผู้เรียนที่มีจำนวนมากได้เรียนเนื้อหาสาระความรู้ที่มีจำนวนมากในเวลาที่จำกัด
2. เพื่อให้ความรู้ประสบการณ์ใหม่แก่ผู้เรียนซึ่งค้นหายากหรือเป็นประสบการณ์เฉพาะของผู้สอนเอง
3. เพื่อช่วยนำทางในการศึกษาด้วยตนเอง
4. เพื่อช่วยสรุปประเด็นสำคัญ
ความมุ่งหมายของวิธีสอนแบบบรรยาย
1. เป็นการสอนที่เน้นเนื้อหาสาระที่นำเสนอโดยครูผู้สอน
ผู้บรรยายจะเสนอปัญหาวิธีการต่างๆ ในการ
แก้ปัญหา
และสรุปด้วยว่าวิธีการใดเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดตามหลักการ
2. เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้หลายๆแนวคิดก่อนที่จะสรุปเป็นข้อคิดหรือทางเลือกที่เหมาะสม
ขั้นตอนการสอน
1. ขั้นเตรียมการสอน
ประกอบด้วย
1.1 วินิจฉัยผู้เรียน โดยพิจารณาถึงพื้นฐานความรู้
ประสบการณ์เดิม ความสามารถของผู้เรียน อาจใช้วิธีพูดคุย ซักถาม
หรือแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการเตรียมเนื้อหาและวิธีการสอน
1.2 เตรียมเนื้อหา โดยพิจารณาถึงความละเอียด ลึกซึ้ง
มากน้อย และตามลำดับของเนื้อหา ให้เหมาะสมกับเวลาและลักษณะของผู้เรียน
1.3 เตรียมคำถาม
เพื่อใช้ถามผู้เรียนระหว่างการบรรยาย จะช่วยให้ผู้เรียนตื่นตัวและสนใจได้ดีขึ้น
1.4 เตรียมสื่อการเรียนการสอน
โดยเตรียมสื่อให้พร้อมอยู่ในสภาพใช้การได้ดี อาจเป็น สไลด์ แผ่นใส ภาพ ฯลฯ จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้ดียิ่งขึ้น
1.5 ขั้นเตรียมการวัดและประเมินผล
อาจจัดทำเป็นการทดสอบหลังเรียน
เพื่อวัดดูว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่
หรือมากน้อยเพียงไร
2. ขั้นสอน ประกอบด้วย
2.1 ขั้นนำ อาจใช้วิธีซักถามพูดคุยกับผู้เรียน
เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเรียน หรือทบทวนการบรรยายในครั้งก่อนเพื่อเชื่อมโยงกับเรื่องใหม่
2.2 ขั้นอธิบาย
เป็นขั้นสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน
ผู้สอนควรได้ดำเนินการ ดังนี้ บอกโครงเรื่อง เครือข่ายของเนื้อหา และแจ้งจุดประสงค์ของบทเรียน อธิบายให้ชัดเจนตามลำดับเนื้อหาอย่างต่อเนื่องกัน สังเกตปฏิกิริยาตลอดเวลาเพื่อการย้ำหรือหยุดทบทวนใหม่ ถามคำถามในบางตอนเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน ยกตัวอย่างประกอบ
เพื่อเพิ่มความแจ่มแจ้งในบทเรียน ใช้น้ำเสียง บุคลิกภาพ ท่าทีการพูดอธิบาย การใช้ภาษา
อารมณ์ขันที่เหมาะสม
2.3 ขั้นสรุป เป็นการปิดท้ายชั่วโมงการบรรยาย
อาจใช้วิธีสรุปโยงเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ
ตั้งปัญหาให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์
วิจารณ์ ฝากปัญหาให้ผู้เรียนไปคิดต่อ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนไดซักถามปัญหามอบหมายงานให้ผู้เรียนไปค้นคว้าต่อเพิ่มเติมและ บอกล่วงหน้าถึงเนื้อหาที่จะเรียนในครั้งต่อไป
3. ขั้นติดตามผล ประกอบด้วย วัดและประเมินผลผู้เรียน
โดยอาจใช้วิธีตรวจสมุดบันทึกที่ผู้เรียนจดบรรยาย ถามคำถามในเนื้อหาที่บรรยาย หรือให้ทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัดเพิ่มเติม
ข้อดีของการสอนแบบบรรยาย
1. ประหยัดเวลา
เพราะสามารถใช้กับผู้เรียนได้จำนวนมาก
2. ผู้สอนสามารถนำความรู้ที่เป็นจุดเด่นจากตำราหลายๆ
เล่มมาประมวล บูรณาการไว้ด้วยกันในการบรรยาย
3. สำหรับเนื้อหายุ่งยากและซับซ้อน
ผู้เรียนได้ฟังบรรยายแล้วจะเข้าใจง่ายกว่าไปศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
ซึ่งต้องใช้เวลานานมากกว่า และอาจไม่เข้าใจ
4. ผู้เรียนได้ฟังความคิดเห็นหรือข้อชี้แนะจากผู้สอนที่มีความรู้และประสบการณ์มากกว่าทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะเรียนดีขึ้น
5. ดำเนินการสอนได้รวดเร็ว ผู้เรียนไม่ต้องทำงานมาก
รับรู้เรื่องราวได้โดยตรง เหมาะสมกับเนื้อหาที่มีความ
ยุ่งยาก
ซับซ้อน ฟังการบรรยายก็เข้าใจง่ายกว่าค้นหาเอง
ข้อเสียของการสอนแบบบรรยาย
1. ถ้าใช้บ่อยๆ โดยไม่พิจารณาความเหมาะสม อาจทำให้ผู้เรียนเบื่อหน่าย
เพราะผู้เรียนมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมการเรียนการสอนน้อย
2. ไม่เอื้อต่อการคิดวิเคราะห์
และสังเคราะห์ซึ่งเป็นความสามารถทางปัญญาชั้นสูง
3. ไม่ค่อยเกิดการพัฒนาด้านเจตคติและทักษะพิสัย
4. เป็นการสอนที่เน้นครูหรือผู้สอนเป็นศูนย์กลาง
5. ความรู้ที่ได้รับจากการฟังเพียงอย่างเดียวอาจลืมง่าย
เป็นความทรงจำที่ไม่ถาวร
แหล่งข้อมูล
ทิศนา แขมมณี.
14วิธีสอนสำหรับครูมืออาชีพ.กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2544.
เชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้วิธีสอนแบบบรรยาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น